การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) กลายเป็นปัญหาระดับโลกที่หลายภาคส่วนต้องร่วมมือกันแก้ไข หนึ่งในแนวทางที่น่าสนใจคือการพัฒนา "วัสดุที่สามารถดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2)" จากชั้นบรรยากาศ เพื่อลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกและผลกระทบต่อภาวะโลกร้อน บทความนี้จะพาไปรู้จักกับวัสดุและเทคโนโลยีเหล่านี้ รวมถึงโอกาสการนำไปใช้ในอนาคต
1. Metal–Organic Frameworks (MOFs)
- โครงสร้างที่มีรูพรุนสูง
- MOFs เป็นสารประกอบที่ประกอบด้วยโลหะ (Metal Ions) เชื่อมต่อกับลิแกนด์อินทรีย์ (Organic Ligands) เกิดเป็นโครงสร้างสามมิติที่มีรูพรุนขนาดนาโน
- พื้นที่ผิว (Surface Area) สูงมาก ทำให้สามารถดูดซับโมเลกุล CO2 ได้ในปริมาณมาก
- ปรับแต่งโครงสร้างได้
- นักวิจัยสามารถเปลี่ยนแปลงชนิดของโลหะ หรือลิแกนด์เพื่อปรับคุณสมบัติการดูดซับ CO2 และความคงทนต่อความชื้นหรือสภาพแวดล้อมต่าง ๆ
2. Zeolites
- วัสดุซิลิเกตที่มีรูพรุน
- ซีโอไลต์เป็นวัสดุที่เกิดจากอะลูมิโนซิลิเกต มีโครงสร้างภายในเป็นรูพรุนที่สม่ำเสมอ
- ใช้ในงานดูดซับหรือแยกสาร (Separation) มานาน เช่น การกลั่นน้ำมันหรือการกรองโมเลกุล
- ประยุกต์ใช้ดูดซับก๊าซเรือนกระจก
- ด้วยโครงสร้างรูพรุนและความสามารถในการแลกเปลี่ยนไอออน ซีโอไลต์บางชนิดสามารถจับ CO2 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. Solid Sorbents: Amines-based Materials
- เทคโนโลยีผงหรือเม็ดสารดูดซับ (Solid Amine)
- เปลี่ยนการใช้สารละลายเอมีน (Amine Solution) ในการจับ CO2 จากกระบวนการอุตสาหกรรมมาเป็นรูปแบบเม็ดหรือเยื่อบาง (Membrane)
- ลดการสูญเสียพลังงานที่เคยใช้ในการทำ Regeneration ของสารละลาย
- การใช้งาน Direct Air Capture
- สามารถนำไปสร้างระบบดักจับ CO2 จากอากาศในระดับโลก (Gigaton Scale) ช่วยลดความเข้มข้นของ CO2 ในชั้นบรรยากาศ
4. Nanoporous Carbons
- วัสดุคาร์บอนที่ผ่านกระบวนการปรับแต่งรูพรุน
- มีพื้นที่ผิวสูง ช่วยจับโมเลกุล CO2 ได้ดี
- ราคาไม่แพงเท่าบางวัสดุ และอาจผลิตจากชีวมวล (Biomass) อย่างกะลามะพร้าว ขี้เลื่อย หรือของเสียทางเกษตร
- ปรับแต่งผิวด้วยเคมี
- การเคลือบเคมี (Functionalization) สามารถเพิ่มความชอบพอ (Affinity) ต่อโมเลกุล CO2
5. การประยุกต์ใช้ในวงกว้าง
- Direct Air Capture (DAC)
- ระบบ DAC ที่ใช้สารดูดซับ เช่น MOFs, Amines และ Nanoporous Carbons สามารถติดตั้งในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อดักจับ CO2 จากบรรยากาศโดยตรง
- CO2 ที่ดักจับได้อาจนำไปใช้ในกระบวนการทางอุตสาหกรรม (Carbon Utilization) หรือเก็บรักษาในแหล่งกักเก็บใต้ดิน (Carbon Sequestration)
- อุตสาหกรรมคอนกรีตและวัสดุก่อสร้าง
- CO2 บางส่วนอาจใช้ในการบ่มคอนกรีต (CarbonCure) เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและลดปริมาณ CO2 ในบรรยากาศ
- การเก็บพลังงาน
- บางแนวคิดพยายามผนวกเทคโนโลยีดูดซับ CO2 เข้ากับการผลิตเชื้อเพลิงสังเคราะห์ (Synthetic Fuels) เพื่อนำ CO2 มาใช้หมุนเวียน
ความท้าทาย
- ต้นทุนและการผลิตในปริมาณมาก
- วัสดุขั้นสูงเช่น MOFs ยังมีต้นทุนการผลิตที่สูง การพัฒนาเทคนิคการสังเคราะห์ราคาถูกจะเป็นกุญแจสำคัญ
- การฟื้นฟูและใช้งานซ้ำ (Regeneration)
- ต้องใช้พลังงานในการปลดปล่อย CO2 ออกจากวัสดุเพื่อใช้งานซ้ำ วัสดุที่ต้องใช้พลังงานต่ำจึงเป็นที่ต้องการ
- การประเมินวงจรชีวิต (LCA)
- ควรพิจารณาว่ากระบวนการผลิตวัสดุเองมีการปล่อยคาร์บอนหรือไม่ และคุ้มค่าในเชิงสิ่งแวดล้อมจริงหรือไม่
แนวโน้มอนาคต
- การวิจัยร่วมกับ AI: ใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการคำนวณโมเลกุลและสภาพโครงสร้าง เพื่อออกแบบวัสดุใหม่ ๆ สำหรับดักจับ CO2 ที่มีประสิทธิภาพสูง
- ตลาดคาร์บอนเครดิต: มีโอกาสสร้างรายได้จากการดักจับ CO2 โดยนำเครดิตคาร์บอนเข้าสู่ตลาดซื้อขาย ลดแรงกดดันจากกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อม
- การสนับสนุนจากรัฐบาลและองค์กร: เริ่มมีนโยบายหรือกฎหมายสนับสนุนการวิจัยและการใช้งานเทคโนโลยีดูดซับ CO2 ให้เป็นโซลูชันที่ยั่งยืน
หากต้องการติดตามข่าวสารและบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัสดุที่สามารถดูดซับ CO2 จากอากาศเพื่อช่วยลดโลกร้อน สามารถเยี่ยมชม urlkub.com ซึ่งมีข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อม